Skip links

มีมากก็หมดได้ง่ายๆ หากใช้จ่ายอย่างสุ่รุ่ยสุร่าย

มีมากก็หมดได้ง่ายๆ หากใช้จ่ายอย่างสุ่รุ่ยสุร่าย

มอร์แกน เฮอร์เซล ผู้เขียนหนังสือ The Psychology of Money เล่าว่า “ผมใช้เวลาหลายปีในช่วงมหาวิทยาลัยทำงานเป็นพนักงานรับรถที่โรงแรมชั้นดีแห่งหนึ่งในเมืองลอสแอนเจลิส แขกประจำของเราคนหนึ่งคือผู้บริหารระดับสูงด้านเทคโนโลยี ในช่วงที่เขามีอายุได้ 20 ปี เขาเป็นอัจฉริยะผู้ที่เคยออกแบบและถือสิทธิบัตรในส่วนประกอบสำคัญที่อยู่ในเราเตอร์ Wi-Fi เขาได้ริเริ่มและขายบริษัทออกไปหลายแห่งเป็นคนที่ประสบความสำเร็จอย่างกว้างขวาง 

แต่เขากลับมีพฤติกรรมทางการเงินที่ดูไม่ชาญฉลาดสักเท่าไหร่ เขามักถือปึกธนบัตรหนึ่งร้อยดอลลาร์ที่หนาหลายนิ้ว แล้วอวดมันกับทุกคนทั้งที่อยากเห็นและที่ไม่ได้อยากเห็น เขามักจะคุยโวเรื่องความมั่งคั่งของตัวเองอย่างเปิดเผยและส่งเสียงดังในเวลาที่เขาเมา และมันก็มักจะเป็นการพูดขึ้นมาลอย ๆ โดยที่ไม่เกี่ยวข้องกับเรื่องใดเลยอยู่เสมอ

วันหนึ่งเขายื่นเงินสดหลายพันดอลลาร์ให้กับหนึ่งในเพื่อนร่วมงานของผมแล้วพูดว่า “ไปที่ร้านขายเครื่องประดับที่อยู่สุดถนนแล้วซื้อเหรียญทอง 1,000 ดอลลาร์มาให้ผมจำนวนหนึ่ง”

หลังจากนั้นราวหนึ่งชั่วโมง ผู้บริหารระดับสูงด้านเทคโนโลยีที่มีเหรียญทองอยู่ในมือและเพื่อน ๆ ของเขาก็รวมตัวกันที่ท่าเรือซึ่งมองเห็นมหาสมุทรแปซิฟิก จากนั้นพวกเขาก็โยนเหรียญลงไปในทะเลให้มันกระดอนไปบนผิวน้ำเหมือนกับก้อนหิน พร้อมกับส่งเสียงเอิ๊กอ๊ากในขณะที่กำลังเถียงกันว่าเหรียญของใครกระดอนไปได้ไกลที่สุดเพียงเพื่อความสนุก

หลายวันต่อมาเขาทำโคมไฟในห้องอาหารของโรงแรมแตก ผู้จัดการคนหนึ่งบอกเขาว่าโคมไฟนั้นมีราคา 500 เหรียญและเขาจำเป็นจะต้องชดใช้ความเสียหายที่เกิดขึ้น

“คุณต้องการเงินห้าร้อยดอลลาร์อย่างนั้นเหรอ?” เขาถามผู้จัดการอย่างแทบไม่เชื่อหูตัวเองในขณะที่ดึงเงินสดหนึ่งปึกออกมาจากกระเป๋าและยื่นมันให้ผู้จัดการ “นี่เงิน 5,000 ดอลลาร์ ! ทีนี้ก็ไสหัวไปได้แล้ว และอย่ามาดูถูกผมแบบนี้อีก”

คุณอาจจะสงสัยว่าเขาทำพฤติกรรมใช้เงินแบบคิดน้อยแบบนี้ไปได้นานแค่ไหน ? คำตอบก็คือ “ไม่นานครับ” หลายปีหลังจากนั้นผมก็ทราบข่าวว่าเขากลายเป็นคนถังแตก”

นี่แหละครับสาเหตุที่อัลลอฮ์ทรงห้ามบ่าวของพระองค์จากการฟุ่มเฟือยสุรุ่ยสุร่าย ซึ่งหมายถึงการใช้จ่ายในทางที่ผิดอย่างเช่นเรื่องราวของผู้บริหารคนนี้ และยังหมายถึงการจ่ายมากเกินไปในทางที่ถูก เอ๊ะ! มีด้วยหรือจ่ายมากเกินไปในทางที่ถูก ? คำตอบคือมีครับ !

ในหะดีษที่บันทึกโดยอะหมัดและอิบนุมาญะฮ์ จากอับดุลลอฮ์ อิบนุ อัมร์ อิบนุ อัลอาศ กล่าวว่า แท้จริงท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม ได้เดินผ่านสะอฺด์ขณะที่เขากำลังอาบน้ำละหมาดแล้วท่านก็กล่าวว่า ทำไมถึงฟุ่มเฟือยแบบนี้สะอฺด์เอ๋ย ? สะอฺด์ก็ถามกลับว่า กระทั่งการใช้น้ำมากในการอาบน้ำละหมาดก็ถือว่าฟุ่มเฟือยหรือครับ ? ท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม ก็ตอบว่า ใช่ ! แม้ว่าท่านอาบน้ำละหมาดด้วยน้ำจากแม่น้ำที่ไหลอยู่ก็ตาม

กระทั่งน้ำในแม่น้ำ! ที่ดูเหมือนจะไม่มีทางหมดไปจากการอาบน้ำละหมาดของเราก็ยังถูกห้ามจากการใช้น้ำเหล่านั้นอย่างฟุ่มเฟือย นับประสาอะไรกับเงินทองที่แม้จะดูเหมือนมีมากแต่มันก็มีอยู่จำกัด หากเราใช้มันอย่างไม่ยั้งคิดสัดวันมันก็อาจจะหมดดังเรื่องจริงที่เล่าไว้ข้างต้น แถมยังได้บาปจากการฝ่าฝืนคำสั่งของอัลลอฮ์และเราะสูลอีกด้วย

ขออัลลอฮ์คุ้มครองเราจากการใช้ทรัพยากรอย่างฟุ่มเฟือย และขอให้เรามีริซกีที่พอเพียงและมีความจำเริญ อามีน

#สหกรณ์อิสลามอมานะฮฺ เพื่อชีวิตที่ใกล้ชิดหลักการ

Leave a comment