สินเชื่อมุรอบะหะฮ์ คืออะไร ?
อัลกุรอานได้ระบุไว้ว่า “และอัลลอฮ์ทรงอนุมติการค้า และทรงห้ามดอกเบี้ย” (2:275)
มุรอบะหะฮ์ คือ การขายสินค้าโดยบวกกำไรจากต้นทุน อันเป็นธรรมชาติของการทำธุรกิจซื้อมาขายไปใครๆ ก็บวกกำไรทั้งนั้นจริงไหมครับ ?
#ตัวอย่าง อุมัรซื้อเสื้อราคา 500 บาท แล้วนำมาขายให้อาลีในราคา 600 บาท ส่วนต่าง 100 บาทคือกำไรที่อุมัรได้รับ นี่คือการค้าที่เรียกว่ามุรอบะหะฮ์แบบที่เข้าใจง่ายที่สุด
แต่รูปแบบที่สหกรณ์ใช้จะเป็นแบบที่สมาชิกได้รับสินค้าไปก่อนแล้วผ่อนชำระค่าสินค้าในภายหลัง ซึ่งการผ่อนชำระก็เป็นที่อนุมัติตามหลักชะรีอะฮ์เช่นเดียวกันดังที่ปรากฏในสมัยท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม และท่านนบีก็ยอมรับในการซื้อขายเหล่านั้น
องค์ประกอบของสัญญามุรอบะหะฮ์ประกอบด้วย สหกรณ์ สมาชิก เจ้าของสินค้า สินค้า สัญญาซื้อขาย โดยมีความเกี่ยวข้องกันดังนี้
1.สมาชิกต้องการสินค้าชนิดหนึ่งจากเจ้าของสินค้าหรือร้านค้าแห่งหนึ่ง
2.สมาชิกแจ้งสหกรณ์ว่าต้องการสินค้าตามข้อ 1
3.สหกรณ์ซื้อสินค้าจากเจ้าของสินค้าหรือร้านค้าตามที่สมาชิกระบุ
4.สหกรณ์ขายสินค้าให้สมาชิกโดยบวกกำไรและจากนั้นทำสัญญาซื้อขายแบบผ่อนชำระตามจำนวนงวดที่ตกลงกันไว้เช่น 12, 24, 36, 48 งวด
5.สมาชิกชำระค่างวดให้สหกรณ์ตามสัญญา
#ตัวอย่าง อุษมานต้องการซื้อจักรยานยนต์ไฟฟ้ายี่ห้อ Islamy รุ่น Sabiq ราคา 100,000 บาท จากร้าน EV Bike Barakat อุษมานจึงขอสินเชื่อมุรอบะหะฮ์จากสหกรณ์โดยขอผ่อนชำระ 48 งวด เมื่อกรรมการพิจารณาอนุมัติสินเชื่อ สหกรณ์จะเป็นฝ่ายซื้อจักรยานยนต์ไฟฟ้าจากร้านในราคา 100,000 บาท จากนั้นทำสัญญาซื้อขายแบบผ่อนชำระให้อุษมานโดยคิดกำไรปีละ 8% รวมค่าสินค้าที่อุษมานต้องชำระ 132,000 บาท โดยแบ่งชำระ 48 งวด งวดละ 2,750 บาท เมื่อทำสัญญาโดยสมบูรณ์ อุษมานก็รับรถกลับบ้านแล้วค่อยชำระค่างวดในเดือนถัดไป
จะเห็นได้ว่าสหกรณ์ไม่ได้ให้เงินสมาชิกเพื่อไปซื้อสินค้าเอง แต่สหกรณ์เป็นผู้ซื้อเพื่อส่งมอบกรรมสิทธิ์ให้สหกรณ์แล้วสหกรณ์จึงขายเพื่อส่งมอบกรรมสิทธิ์ให้สมาชิกอีกทอดหนึ่ง ตามหลักการศาสนาที่ห้ามการขายสินค้าที่เราไม่ได้ถือกรรมสิทธิ์ และกำไรที่เกิดขึ้นก็เป็นกำไรจากการขายสินค้า มิใช่การให้สินเชื่อเป็นเงินสดแล้วคิดกำไรสมาชิกเพราะมันคือดอกเบี้ยนั่นเองครับ
ทำไมต้องคิดกำไรเป็นเปอร์เซนต์ต่อปีเหมือนดอกเบี้ย ?
1.ความจริงสหกรณ์ไม่จำเป็นต้องคิดกำไรเป็นเปอร์เซนต์ต่อปีก็ได้ เพราะมุรอบะหะฮ์จะบวกกำไรเท่าไหร่ก็ได้ตราบที่เมื่อขายแล้วสมาชิกพอใจในราคานั้น
2.แต่ในทางเทคนิคแล้วการคิดกำไรเป็นเปอร์เซนต์ต่อปีทำให้ง่ายในการวางแผน การตั้งเป้าดำเนินธุรกิจของสหกรณ์ว่าธุรกรรมแต่ละประเภทคิดเป็นสัดส่วนเท่าไหร่ และแต่ละชนิดจะคิดกำไรเท่าไหร่ และเมื่อรวมกันทั้งหมดแล้วสหกรณ์จะได้กำไรเท่าไหร่หากคิดเป็นเปอร์เซนต์ต่อปี เติบโตขึ้นเท่าไหร่เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน เรื่องนี้คนทำธุรกิจ, ลงทุนในหุ้นหรือติดตามข่าวเศรษฐกิจก็จะเข้าใจว่า ‘เปอร์เซนต์ต่อปี’ ไม่ได้ถูกผูกขาดโดยดอกเบี้ยเท่านั้น แต่เป็นหน่วยวัดการเติบโตของสิ่งต่างๆ ได้ด้วย
3.กฎหมายระบุไว้เช่นนั้นว่าสหกรณ์เป็นสถาบันการเงินคล้ายกับธนาคาร มีรูปแบบธุรกิจคือปล่อยสินเชื่อด้วยอัตราดอกเบี้ยไม่เกินกี่เปอร์เซนต์ต่อปี (ของสหกรณ์อิสลามคืออัตรากำไร)
ดังนั้นเมื่อรวมเหตุผลทั้ง 3 ข้อแล้วการคิดกำไรเป็นเปอร์เซนต์ต่อปีจึงลงตัวที่สุดนั่นเองครับ
#สหกรณ์อิสลามอมานะฮฺ เพื่อชีวิตที่ใกล้ชิดหลักการ
