เรื่องราวของคนเก็บขยะที่ถูกลอตเตอรี่กว่า 670 ล้านแต่ผลาญจนหมดใน 10 ปี
เมื่อพ.ศ. 2545 มีข่าวหนึ่งที่ดังไปทั่วโลกเกี่ยวกับพนักงานเก็บขยะคนหนึ่งที่ชื่อไมเคิล คาร์โรล อายุ 19 ปี จากสหราชอาณาจักรที่ได้กลายเป็นเศรษฐีในพริบตาหลังเสี่ยงดวงซื้อลอตเตอรี่ 1 ใบด้วยราคา 1 ปอนด์ และถูกรางวัลแจ็คพอตของ National Lottery (UK) 9.7 ล้านปอนด์ (กว่า 670 ล้านบาทตามค่าเงินขณะนั้น)
“แบบนี้สบายจนตายแน่ ๆ” ถ้าเป็นเราคงพูดกับตัวเองแบบนี้ใช่ไหมครับ ?
แต่เรื่องราวกลับไม่ได้เป็นเช่นนั้นครับ เพราะคาร์โรลเลือกที่จะใช้เงินไปกับการแสวงหาความสุขให้กับตัวเองมากกว่าที่จะบริหารอย่างชาญฉลาด เขาเริ่มจากแบ่งเงินให้ภริยา แม่ของภริยา แม่และป้าของตัวเอง รวม 4 คน คนละ 1 ล้านปอนด์ ข้อนี้ถือว่าเป็นเรื่องที่น่าชื่นชม
แต่หลังจากนั้นเขาก็นำเงินที่เหลือ 5.7 ล้านปอนด์ (ราว 395 ล้านบาท) ไปถลุง ซื้อคฤหาสน์หรู, เสพยา, จัดปาร์ตี้สุดเหวี่ยงรายล้อมด้วยสาว ๆ ทุกวัน แถมยังถูกจับขึ้นโรงขึ้นศาลเป็นว่าเล่นไม่ต่ำกว่า 30 ครั้ง
ผ่านไปไม่ถึง 10 ปีเงินที่ได้มาจากการเสี่ยงดวงก็หมดเกลี้ยง !
หมายความว่าเขาใช้เงินเฉลี่ยปีละ 39.5 ล้านบาท หรือเดือนละ 3.29 ล้านบาท
เมื่อเงินหมดเขาก็ตัดสินใจย้ายไปอยู่สกอตแลนด์ ทำงานในเหมือนถ่านหินได้ค่าแรงเดือนละราว 500 ปอนด์ เขาให้สัมภาษณ์ว่าไม่เคยเสียใจหรือเสียดายเลยกับเงินที่ถูกใช้ไปแบบนั้นจนกระทั่งหมดเกลี้ยง
แอดมินเคยฟังเรื่องคล้าย ๆ กันนี้จากคนรู้จักและจากสื่อในไทยเช่นเดียวกัน และได้บทสรุปที่สำคัญก็คือ “เงิน จะอยู่กับคนที่มีความรู้พอจะดูแลมันเท่านั้น”
ถึงขั้นที่อาจารย์ท่านหนึ่งเคยบอกว่า “หากนำเงินของผู้ที่รวยที่สุด 10% ไปแบ่งให้คนอีก 90% ที่เหลือ เชื่อได้เลยว่าไม่นานนักเงินที่ถูกแบ่งไปให้คน 90% นั้นจะกลับไปเป็นของคน 10% เช่นเดิม” ทั้งนี้เนื่องจากความรู้ในการหาและการบริหารจัดการเงินของกลุ่มคน 10% นั้นนั่นเอง
โอกาสหน้าจะนำเรื่องของหนุ่มเจ้าสำราญคนอื่นมาเล่าสู่กันฟังอีก อินชาอัลลอฮ์
#สหกรณ์อิสลามอมานะฮฺ เพื่อชีวิตที่ใกล้ชิดหลักการ
