Skip links

เรื่องราวของเคนท์ อีแวนส์ เพื่อนสนิทของบิล เกตส์

เรียนรู้ประเด็นริซกีผ่านเรื่องราวของเคนท์ อีแวนส์ เพื่อนสนิทของบิล เกตส์ ที่เกือบได้เป็นหนึ่งในผู้ก่อตั้งบริษัทไมโครซอฟต์

บิล เกตส์ ได้เข้าเรียนในโรงเรียนมัธยมแห่งเดียวในโลกที่มีคอมพิวเตอร์ และเมื่อเขาเรียนอยู่เกรด 8 เขาหลงไหลมันมาก ช่วงนั้นเองที่เขาได้พบกับ พอล อัลเลน เพื่อนร่วมรุ่นที่หลงไหลและคลั่งไคล้คอมพิวเตอร์ถึงขั้นหมกมุ่น

ในโรงเรียนมัธยมเลคไซด์ที่ทั้งสองคนเรียนอยู่นั้น คอมพิวเตอร์ยังไม่ได้เป็นวิชาหลัก มันคือส่วนหนึ่งจากวิชาเสริมที่เปิดโอกาสให้พวกเขาเข้าไปเรียนรู้และทดลองเล่นได้จนถึงดึกดื่นค่ำมืดทั้งในวันธรรมดาและวันหยุดสุดสัปดาห์ สองเกลอกลายเป็นผู้เชี่ยวชาญคอมพิวเตอร์อย่างรวดเร็ว

เกตส์เล่าย้อนความหลังให้ฟังว่า คืนหนึ่งอัลเลนได้เอานิตยสารฟอร์จูนมาให้เขาดูแล้วพูดว่า “นายคิดว่าการทำธุรกิจในฟอร์จูน 500 มันจะเป็นยังไง ?” อัลเลนบอกว่าเขานึกภาพนั้นไม่ออกเลยจริงๆ แต่ก็ยังพูดอีกว่า “บางทีเราอาจจะมีบริษัทของตัวเองสักวันก็ได้นะ” (ปัจจุบันมูลค่าบริษัทไมโครซอฟต์สูงถึงกว่า 2 ล้านล้านดอลลาร์)

ในปีค.ศ.1968 มีนักเรียนมัธยมปลายทั่วโลกราว 303 ล้านคน ในจำนวนนี้อาศัยอยู่ในสหรัฐฯ 18 ล้านคน ราว 2.7 แสนคนอยู่ในรัฐวอชิงตัน ถ้าเฉพาะในซีแอตเติลก็แสนกว่าคน และมีแค่ประมาณ 300 คนเท่านั้นที่ได้เข้าเรียนโรงเรียนเดียวกับเกตส์และอัลเลน

303 ล้านคน กับ 300 คน เท่ากับอัตราส่วน 1 ในล้านที่จะมีโอกาสได้เรียนในโรงเรียนที่มีวิสัยทัศน์และเงินซื้อคอมพิวเตอร์ เกตส์เป็นหนึ่งในนั้นและเขาไม่อายที่จะยอมรับมันว่า “หากไม่มีเลคไซด์ก็คงไม่มีไมโครซอฟต์” เขากล่าวเช่นนั้นในปี 2005 ระหว่างพูดกับนักเรียนที่จบการศึกษาที่นั่น

เคนท์ อีแวนส์ เป็นมือโปรด้านคอมพิวเตอร์อีกคนหนึ่งที่เลคไซด์ เขากับเกตส์มาเป็นเพื่อนสนิทกันตอนเกรด 8 เกตส์ชื่นชมว่าอีแวนส์คือนักเรียนที่เรียนเก่งที่สุดในชั้นเรียน ทั้งสามคนเคยได้รับมอบหมายให้เขียนโปรแกรมจัดตารางเรียนเพื่อให้นักเรียนนับร้อยสามารถเรียนวิชาที่พวกเขาต้องการได้โดยไม่กระทบกับวิชาอื่น ซึ่งการจัดทำตารางด้วยมือนั้นยากมาก แต่ด้วยความรู้ทางคอมพิวเตอร์พวกเขาก็ช่วยเหลือโรงเรียนได้สำเร็จ

ทั้งสามคนมีอัจฉริยภาพด้านคอมพิวเตอร์เหมือนๆ กัน แต่อีแวนส์มีหัวธุรกิจชนิดที่อัลเลนไม่มี และเขาก็มีความทะเยอะทะยานไร้ขีดจำกัดแบบที่เกตส์มี เขามักแบกกระเป๋าเอกสารใบใหญ่เหมือนที่นักกฎหมายใช้อยู่เสมอ เกตส์เล่าว่าเรามักวางแผนถึงสิ่งที่จะทำในอนาคต 5-6 ปีข้างหน้าอยู่เสมอ ทั้งสองมั่นใจว่าไม่ว่าจะเป็นอะไรก็ตามพวกเขาจะทำมันร่วมกันอย่างแน่นอน

เขาเล่าต่อไปว่า เรามั่นใจว่าจะได้ไปเรียนมหาวิทยาลัยร่วมกัน ผม อัลเลนและอีแวนส์คงได้เป็นผู้ร่วมก่อตั้งบริษัทไมโครซอฟต์ร่วมกันแน่ๆ

ทุกปีจะมีคนเสียชีวิตจากการปีนเขาราว 36 รายในสหรัฐฯ และโอกาสที่ผู้เสียชีวิตจะเป็นเด็กมัธยมปลายก็อยู่ที่ราว 1 ในล้าน และอีแวนส์ก็เป็นหนึ่งในนั้น เขาเสียชีวิตระหว่างปีนเขาก่อนจะเรียนจบชั้นมัธยมปลาย

เกตส์ อัลเลนและอีแวนส์ ได้รับโอกาส 1 ในล้าน ให้เข้าเรียนในโรงเรียนเลคไซด์อันเป็นจุดเริ่มต้นสำคัญของบริษัทไมโครซอฟต์ หนึ่งในธุรกิจที่สร้างความเปลี่ยนแปลงและประโยชน์อย่างมากบนโลก แน่นอนว่ารวมถึงผลกำไรที่ผู้ถือหุ้นจะได้รับมันด้วย

ทว่าอีแวนส์ ได้รับความเสี่ยงระดับ 1 ในล้านเพิ่มเข้ามาด้วยในขณะที่เพื่อนอีก 2 คนไม่ได้รับมัน แม้ทั้งสามคนจะเป็นอัจฉริยะด้านคอมพิวเตอร์ที่ทำงานหนักเหมือนๆ กัน แต่ริซกีและอะญัลที่ถูกกำหนดไว้แล้วตั้งแต่พวกเขาอยู่ในครรภ์ของมารดานั้นทำให้ผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นแตกต่างกันอย่างชัดเจน ผู้ศรัทธาต้องไม่ลืมในประเด็นนี้ เรามีหน้าที่ทำให้ดีที่สุดแล้วจึงมอบหมายบั้นปลายของมันต่ออัลลอฮ์แต่เพียงเท่านั้น และเมื่อใดที่เรากล่าวถึงเรื่องราวในอนาคตก็อย่าลืมกล่าว “อินชาอัลลอฮ์ – หากอัลลอฮ์ทรงประสงค์” ด้วยเสมอ เพราะเราไม่รู้เลยว่าจะเกิดอะไรขึ้นในวันข้างหน้า

สหกรณ์อิสลามอมานะฮฺ เพื่อชีวิตที่ใกล้ชิดหลักการ

Leave a comment