มุฎอรอบะฮฺ vs มุชารอกะฮฺ
เราได้อธิบายโดยสังเขปไปแล้วถึงธุรกรรมทั้งสองแบบตามหลักชะรีอะฮฺว่าเป็นเช่นไร วันนี้จะลองมาเปรียบเทียบข้อแตกต่างให้อีกทีครับ
มุฎอรอบะฮฺ | มุชารอกะฮฺ | |
การลงทุน (ลงเงิน) | ลงทุนฝ่ายเดียว | ลงทุนทุกฝ่าย |
การลงแรง (ลงมือทำงาน) | ลงแรงฝ่ายเดียว (ฝ่ายที่ไม่ได้ลงทุน) | ลงแรงทุกฝ่ายก็ได้ หรือฝ่ายเดียวก็ได้ |
การว่าจ้าง | ผู้ลงแรงว่าจ้างผู้อื่นได้ | ผู้ลงทุนและ/หรือผู้ลงแรงว่าจ้างผู้อื่นได้ |
สิทธิ์ในการบริหารจัดการ | ผู้ลงแรงมีสิทธิ์ฝ่ายเดียว | ทุกฝ่ายมีสิทธิ์ |
การรับค่าจ้าง (ของฝ่ายที่ลงแรง) | ไม่มีสิทธิ์รับค่าจ้าง | มีสิทธิ์รับค่าจ้าง |
เมื่อผลประกอบการมีกำไร | ทุกฝ่ายแบ่งกำไรกันตามสัดส่วนที่ตกลงไว้ | ทุกฝ่ายแบ่งกำไรกันตามสัดส่วนที่ลงทุนไว้ |
เมื่อผลประกอบการขาดทุน | ฝ่ายลงทุนขาดทุนเงินแต่เพียงฝ่ายเดียว ส่วนฝ่ายลงแรงขาดทุนแรง | ทุกฝ่ายขาดทุนร่วมกันตามสัดส่วนที่ลงทุนไว้ |
สิ่งที่เราต้องเน้นย้ำเลยก็คือ สัญญาต้องชัดเจนตั้งแต่แรก และทุกฝ่ายที่ร่วมลงทุนต้องเข้าใจตรงกันตั้งแต่แรกด้วยนะครับว่าเรากำลังทำธุรกรรมแบบใดอยู่กันแน่
ที่สำคัญอย่าลืมว่า “การลงทุนมีทั้งโอกาสได้กำไรและโอกาสขาดทุนเสมอ” ถ้าลงทุนแล้วขาดทุนเราจะไปคาดคั้นเอาเงินทุนคืนแบบเต็มร้อยจากผู้ลงแรงอันนี้ก็ไม่ถูกต้องครับ เว้นแต่ตรวจสอบแล้วยืนยันได้ว่าเขาบริหารหรือลงแรงแบบเจตนาฉ้อโกง อันนี้ก็ว่ากันอีกเรื่องครับ
ส่วนการลงทุนที่รับประกันกำไรหรือผลตอบแทนเท่านั้นเท่านี้เปอร์เซ็นต์ก็จะกลายเป็นดอกเบี้ย ซ้ำร้ายกว่านั้นอาจกำลังเดินเข้ากับดักแชร์ลูกโซ่โดยไม่รู้ตัวก็เป็นได้ครับ
สหกรณ์อิสลามอมานะฮฺ เพื่อชีวิตที่ใกล้ชิดหลักการ